ได้รับการควบคุม1
มีประสิทธิภาพ3,5-15
ไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม3
ปกติแล้วไม่ต้องใช้ยาชา16

การแช่แข็งไขมันระหว่างกระบวนการ CoolSculpting®1,2

คนส่วนใหญ่มีไขมันที่ไม่ยอมหายไป แม้ว่าจะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วก็ตาม17,18

เทคโนโลยี การกำจัดไขมันด้วยการแช่แข็ง ใช้ความเย็นที่ได้รับการควบคุมลงไปยังเป้าหมาย และทำลายเฉพาะเซลล์ไขมันเหล่านี้เท่านั้น

ในสัปดาห์ต่อๆ ไป ร่างกายของคุณจะจัดการกับไขมันเหล่านั้นด้วยวิธีการตามธรรมชาติ และกำจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป

ดังนั้น เซลล์ไขมันที่ได้รับการทำการรักษาแล้วจะถูกกำจัดออกไปอย่างถาวร

การกำจัดไขมันหลังจากกระบวนการ CoolSculpting®1,2

เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งในระหว่างกระบวนการ CoolSculpting® จะค่อยๆ ถูกทำลายและหายไปจากร่างกายผ่านกระบวนการกำจัดโดยธรรมชาติของร่างกาย 2-4,19 การกระจายเซลล์ไขมันในบริเวณที่ไม่ได้รับการทำทรีตเมนต์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง12,14,15

เซลล์ไขมันหลังจากการลดน้ำหนักด้วยวิธีการแบบทั่วไป

หลังจากควบคุมอาหารและน้ำหนักลดลงแล้ว เซลล์ไขมันจะมีขนาดเล็กลง แต่จำนวนเซลล์จะยังคงเท่าเดิม20 การลดน้ำหนักไม่ได้ทำให้เซลล์ไขมันหายไป20

โดยทั่วไป น้ำหนักที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นไม่ทำให้จำนวนเซลล์เพิ่มขึ้นหรือลดลง220 แต่จะทำให้ขนาดของเซลล์ไขมันเปลี่ยนไป20 เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น เซลล์ไขมันจะมีขนาดใหญ่ขึ้น20

เซลล์ไขมันหลังจากกระบวนการ CoolSculpting®

กระบวนการแช่แข็งไขมันแบบ CoolSculpting® สามารถลดจำนวนเซลล์ไขมันจากหลายๆ บริเวณที่ได้รับการทำทรีตเมนต์ได้มากกว่า 27% หลังจากทำทรีตเมนต์ไปแล้ว 6 เดือน†9

ร่างกายจะจัดการและกำจัดเซลล์ไขมันเหล่านี้ด้วยวิธีการตามธรรมชาติ มันจะไม่ลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ ในร่างกายของคุณ*2,4 เซลล์ไขมันในบริเวณที่ไม่ได้ทำทรีตเมนต์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ12-15

การรวมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน

จากการค้นคว้าวิจัยเป็นเวลาหลายปี กระบวนการ CoolSculpting® มีพื้นฐานจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์22 มีการตีพิมพ์บทความที่เกี่ยวข้องในหัวข้อนี้จากงานวิจัยเชิงคลินิกเกี่ยวกับการประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของ CoolSculpting® ถึง 52 บทความ21

ไซต์นี้จัดทำขึ้นสำหรับผู้เข้าชมในประเทศไทยเท่านั้น

ภาพใช้เพื่อเป็นภาพประกอบเท่านั้น ข้อมูลจากการเจาะลึกในเรื่องการสลายไขมันโดยใช้ความเย็น (CoolSculpting®) โดยใช้โมเดลหมู †'งานวิจัยเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2009 – มกราคม 2011 n=112 โดยการติดตามคนไข้ 85 ราย โดยใช้การประเมินจากเครื่องหนีบไขมัน จากการติดตามผล ค่าเฉลี่ยของไขมันที่ลดลงอยู่ที่ 21.5% ไขมันที่ลดลง 27% คือไขมันจากบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง (n=55) ค่าเฉลี่ยของไขมันที่ลดลงในการทำรักษาบริเวณอื่นๆ จะรวมถึง: บริเวณรอบยกทรง 20% (n=4), บริเวณเอว 22% (n=2), สะโพก 25% (n=20), ต้นขาด้านใน 17% (n=3) และเข่าช่วงกลาง 18% (n=1). คนไข้ได้รับการทำรักษาตั้งแต่หนึ่งครั้งขึ้นไปสำหรับบริเวณการทำรักษาทั้งหมด ≤ สี่บริเวณในครั้งเดียว ตั้งแต่ปี 2009 - กันยายน 2017


References

1. CoolSculpting® system user manual (BRZ-101-TUM-EN2-J). December 2016.

2. Klein KB, et al. Lasers Surg Med. 2009; 41:785-790.

3. Kilmer SL, et al. Lasers Surg Med. 2016; 48:3-13.

4. Zelickson B, et al. Am Soc Dermatol Surg. 2009; 35:1462-1470.

5. Shek SY et al. Lasers Surg Med. 2012; 44:125-130.

6. Kilmer SL. Lasers Surg Med. 2017. 49:63-68.

7. Carruthers JD, et al. Dermatol Surg. 2017; 43:940-949.

8. Bernstein EF & Bloom JD. JAMA Facial Plastic Surg. 2017; doi:10.1001/jamafacial.2017.0102.

9. Sasaki GH, et al. Aesthetic Surg J. 2014; 34:420-431.

10. Zelickson BD, et al. Lasers Surg Med. 2015; 47:120-27.

11. Wanitphakdeedecha R, et al. Lasers Med Sci. 2015; 30:2165-2169.

12. Garibayan L, et al. Lasers Surg Med. 2014; 46:75-80.

13. Lee SJ, et al. J Cos Laser Ther. 2016; 18:126-129.

14. Boey GE & Wasilenchuck JL. Dermatol Surg. 2014; 0:1-6.

15. Stevens WG & Bachelor EP. Aesthetic Surg J. 2015; 35:66-71.

16. Silva LH, et al. J Cos Der+C32:C46:460-465.

17. Duncan DI & Chubaty R. Aesthet Surg J. 2006; 26:575-585.

18. Schlessinger J, et al. Skin Med. 2013; 11:27-31.

19. Manstein D, et al. Lasers Surg Med. 2008; 40:595-604.

20. Spalding KL, et al. Nature Letters. 2008; 465:783-787.

21. Allergan Inc. Unpublished data INT/0071/2018. CoolSculpting® publications. February 2018.

22. Epstein EH & Oren, ME. N Engl J Med. 1970; 82:966-967.